นับว่าเป็นปรากฏการณ์ที่น่ายินดี ที่ในปัจจุบันผู้คนในสังคมและองค์กรต่างๆ เริ่มให้ความสำคัญกับการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น เพราะไม่ว่าจะเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดหรือใหญ่ที่สุดในสังคม ทุกคนล้วนมีส่วนช่วยให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้นและโลกน่าอยู่ขึ้น เต็ดตรา แพ้ค หนึ่งในผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจในกว่า 160 ประเทศทั่วโลก ได้วางเป้าหมายที่มากกว่าแค่การสร้างผลิตภัณฑ์ แต่เราอยากส่งเสริมให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อประโยชน์สูงสุดของการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
ทรัพยากรทดแทนในทีนี้ คือ วัตถุดิบที่สามารถสร้างใหม่ได้ตามธรรมชาติ เช่น ป่าไม้ ทุกวันนี้กล่องเครื่องดื่มของเต็ดตรา แพ้ค ใช้วัสดุจากทรัพยากรทดแทนถึง 75% และในระยะยาวเราตั้งเป้าในการผลิตจากวัสดุทดแทนให้ได้ 100%
เป็นขั้นตอนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน ด้วยการพัฒนาแหล่งต้นน้ำของกระบวนการผลิต โดยกระดาษที่ใช้จะมาจากป่าปลูกเชิงพาณิชย์ที่มีการจัดการด้วยความรับผิดชอบภายใต้มาตรฐาน FSC™ เท่านั้น และอลูมิเนียมแผ่นบางในกล่องเครื่องดื่มที่ใช้เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงของสภาพของผลิตภัณฑ์ภายในกล่องโดยไม่ต้องใช้วัตถุกันเสีย และเราทำการวิจัยค้นคว้าวัสดุใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สร้างผลผลิตมากขึ้นแต่ใช้ทรัพยากรน้อยลงเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องจักรในกระบวนการผลิต ลดปริมาณของเสียและลดการใช้วัตถุดิบไปพร้อมกัน รวมถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยลดการใช้ทรัพยากรที่จะส่งผลต่อการลดต้นทุนลูกค้า
การรีไซเคิลถือเป็นการช่วยรักษาวัตถุดิบที่มีค่าไว้ในระบบเศรษฐกิจ โดยในปี พ.ศ.2560 กล่องเครื่องดื่มของเต็ดตรา แพ้ค สามารถนำไปรีไซเคิลได้มากถึง 46,000 ล้านกล่อง เพื่อให้เกิดวงจรการรีไซเคิลให้เกิดได้จริงในตลาด ในประเทศไทย เต็ดตรา แพ้คได้รณรงค์ให้มีการจัดเก็บคัดแยกและรีไซเคิลกล่องเครื่องดื่มมากว่า 15 ปีแล้ว โดยให้การสนับสนุนหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และริเริ่มโครงการต่างๆ เช่น โครงการเด็กไทยหัวใจรีไซเคิล (2549-2550) โครงการแจ๋วรักษ์โลก (2551) โครงการร่วมรักษ์โลกกับบิ๊กซีและเต็ดตรา แพ้ค (2552) โดยล่าสุดดำเนินโครงการ “หลังคาเขียวเพื่อมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก” ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 สร้างเครือข่ายอาสาสมัครจัดเก็บกล่องเครื่องดื่ม นำกลับมาให้โรงงานรีไซเคิลผลิตเป็นแผ่นหลังคา มอบให้กับมูลนิธิฯ นำไปใช้ประโยชน์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยและชุมชนที่ขาดแคลน โดยมีการส่งมอบกล่องเครื่องดื่มใช้แล้วจนถึงสิ้นปี 2561 เกือบ 195 ล้านกล่อง และนำมารีไซเคิลเป็นแผ่นหลังคาได้กว่า 60,000 แผ่น ช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศได้เป็นจำนวนมาก จากการที่ไม่นำกล่องไปเผาหรือฝังกลบ นอกจากนี้ยังมีโครงการอื่นๆ ที่ดำเนินการร่วมกับหลายๆ หน่วยงาน เช่น โครงการกล่องยูเอชที รีไซเคิลได้ อีกด้วย
โดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับงานรีไซเคิลและกลุ่มที่เชื่อมโยง ทั้งในแง่เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม
ปัจจุบันมีหลายกลุ่ม แต่กลุ่มใหญ่คือกลุ่มที่ทำโดยสมัครใจและไม่หวังผลกำไร รวมถึงภาคประชาชน ภาครัฐ เอกชน ที่ร่วมมือกันสร้างประโยชน์เพื่อสิ่งแวดล้อมและรีไซเคิล ซึ่งส่งผลดีต่อกลุ่มผู้คัดแยกส่งขายเป็นทอด ๆ ทำให้สามารถสร้างยอดขายและผลกำไรให้กับผู้ประกอบการรายย่อย
การเพิ่มจำนวนกล่องเครื่องดื่มที่ใช้แล้วสู่กระบวนการรีไซเคิล นอกจะเป็นการลดปริมาณขยะในการขนส่งตามนโยบายรัฐแล้ว ยังลดปริมาณขยะในหลุมฝังกลบได้อีกด้วย
โรงงานผลิตกระดาษจะได้รับประโยชน์จากการได้เยื่อกระดาษกล่องเครื่องดื่มที่มีคุณภาพเทียบเท่ากับเยื่อใหม่ที่ยังไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน ทั้งยังลดต้นทุนวัตถุดิบได้มากขึ้นและสามารถนำไปสร้างนวัตกรรมเป็นสินค้ารีไซเคิล เพิ่มรายได้ได้อย่างเป็นรูปธรรม
ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจสูงและกระแสการใส่ใจสิ่งแวดล้อมของผู้คนก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน การสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนนอกจากจะเป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุดแล้ว ก็ยังลดต้นทุนการผลิตซึ่งจะส่งผลต่อมูลค่าของผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มมากขึ้น แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนจึงเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจของเรา เต็ดตรา แพ้ค ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม