เข้าสู่ปีที่ 21 แล้วที่เต็ดตรา แพ้คได้จัดทำรายงานความยั่งยืน หรือSustainability Report โดยในปีนี้ เราได้ใช้เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือ Sustainable Development Goals (SDGs) Goals ของสหประชาชาติว่าด้วยเรื่องความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ผสานกับคำมั่นสัญญาในการดำเนินธุรกิจของเต็ดตรา แพ้ค นั่นก็คือ PROTECTS WHAT’S GOOD™ หรือ “ปกป้องทุกคุณค่า™” ที่สะท้อนเรื่องราวของการปกป้องอาหาร ปกป้องผู้คน และ ปกป้องอนาคต ซึ่งในปีนี้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบไปอย่างไร โดดเด่นในเรื่องใดบ้าง ลองมาดูกันเลยครับ
หลาย ๆ คนอาจไม่รู้ว่ากล่องเครื่องดื่มที่ใช้แล้วนั้น นำมาใช้ประโยชน์ได้ กล่องเครื่องดื่มเหล่านี้ ถือเป็นวัตถุดิบที่มีคุณค่า เพราะประกอบไปด้วยเยื่อกระดาษใยยาวสูงถึง 75% และพลาสติกอลูมิเนียมประมาณ 25% โดยน้ำหนัก สามารถนำไปรีไซเคิลเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ทั้งหมด เราริเริ่มใช้นโยบายเชิงรุก เพื่อให้คนตระหนักถึงความสำคัญของการคัดแยก จัดเก็บ และรีไซเคิลในประเทศไทย ตอบโจทย์การเติบโตอย่างยั่งยืน และรักษาสิ่งแวดล้อมตลอดทั้งกระบวนการผลิต
สำหรับบรรจุภัณฑ์ที่ออกจำหน่ายทั่วโลกในปี 2561 เราได้ดำเนินการติดฉลาก FSC™ บนกล่องเครื่องดื่มไปแล้วถึง 62% จาก 49% ในปี 2560 และในประเทศไทยมีการติดฉลาก FSC เกือบ 100%ซึ่งมาตรฐานขององค์การจัดการด้านป่าไม้ หรือ Forest Stewardship Council™ (FSC) นั้นรับรองว่า วัตถุดิบกระดาษที่ใช้ในการผลิตกล่องเครื่องดื่มมาจากป่าปลูกเชิงพาณิชย์ ที่มีการจัดการอย่างรับผิดชอบ และอลูมิเนียมแผ่นบางในกล่องเครื่องดื่มที่ใช้ป้องกันการเปลี่ยนแปลงของสภาพผลิตภัณฑ์ภายในกล่องให้คงทั้งคุณค่า และรสชาติโดยไม่ต้องใช้วัตถุกันเสีย เพื่ออนาคต เต็ดตรา แพ้ค ยังได้ดำเนินการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อลดปริมาณการใช้วัสดุ และทำการวิจัยค้นคว้าวัสดุใหม่ ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งของ Aluminum Stewardship Initiative (ASI) มุ่งมั่นในการแก้ไขประเด็นทางสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับวัสดุประเภทนี้
ระบบเศรฐกิจหมุนเวียนนี้ นับเป็นหัวใจสำคัญของนโยบายด้านความยั่งยืนของเต็ดตรา แพ้ค ด้วยความตั้งใจที่จะปกป้องทุกคุณค่า เราพยายามที่จะลดมลพิษ หรือของเสียต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างกระบวนการผลิตที่จะส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม ที่เห็นได้ชัดที่สุดอย่างภาวะโลกร้อน อันเป็นผลมาจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลง ก่อให้เกิดคาร์บอนที่จับตัวกันบนชั้นบรรยากาศ เต็ดตรา แพ้ค มุ่งเน้นที่จะลดปริมาณคาร์บอนที่ปล่อยจากกระบวนการผลิตกล่องเครื่องดื่มออกสู่ชั้นบรรยากาศ ด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้าทดแทน และทรัพยากรทดแทนได้ ที่เราวิจัยและพัฒนามาทดแทนการใช้พลังงานฟอสซิลอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งตั้งแต่ปี 2010 เราได้ลดปริมาณคาร์บอนไปโดยประมาณแล้วถึง 10 ล้านตัน
การรีไซเคิลถือเป็นการช่วยรักษาวัตถุดิบที่มีค่าไว้ในระบบเศรษฐกิจ ครอบคลุมตั้งแต่ผู้คัดแยกกล่อง ซึ่งปัจจุบันได้รับความร่วมมือทั้งในระดับภาครัฐ และเอกชน เป็นกลุ่มที่ทำด้วยความสมัครใจ ไม่หวังผลกำไร อันมีใจมุ่งหมายที่จะช่วยให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น ไปจนถึงผู้ประกอบการที่ร่วมสนับสนุนให้มีการรีไซเคิล ทั้งในแง่ของการใช้วัตถุดิบที่สามารถรีไซเคิลได้ หรือการใช้ประโยชน์จากการได้เยื่อกระดาษกล่องเครื่องดื่มที่มีคุณภาพเทียบเท่ากับเยื่อใหม่ที่ยังไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการลดต้นทุน และนำวัสดุรีไซเคิลไปใช้ในงานต่าง ๆ เต็ดตรา แพ้คทำงานร่วมกับพันธมิตรในภาคอุตสาหกรรมด้วยการเป็นส่วนหนึ่งของคำสัญญาเกี่ยวกับพลาสติกแห่งสหภาพยุโรป เพื่อให้มั่นใจได้ว่า จะมีการรีไซเคิลกล่องเครื่องดื่มทั่วทั้งทวีปยุโรปภายในปีพ.ศ. 2573 และยังส่งเสริมกิจกรรมรณรงค์จัดเก็บและรีไซเคิลกล่องเครื่องดื่มในประเทศต่างๆ มาโดยตลอด
โครงการหลังคาเขียว ที่เต็ดตรา แพ้ค ได้ริเริ่มขึ้น โดยความร่วมมือกับมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยรายการทีวี 360 องศา จัดตั้งจุดรับกล่องเครื่องดื่มตาม Big C สาขาต่าง ๆ เพื่อรับบริจาคกล่องเครื่องดื่มมารีไซเคิลทำเป็นแผ่นหลังคา มอบให้กับมูลนิธิฯ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยเต็ดตรา แพ้ค ร่วมกับพันธมิตรโครงการจัดทำกิจกรรมต่าง ๆ ผ่านเครือข่ายชุมชนของมูลนิธิฯ และผู้สนับสนุนโครงการ คือ ศูนย์รีไซเคิลกล่องเครื่องดื่ม โดย บริษัท ไฟเบอร์พัฒน์ จำกัด และกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2553 โดยในปี 2561 โครงการได้รับบริจาคกล่องรวมแล้วเกือบ 2,000 ตัน หรือ 200 ล้านกล่อง มอบแผ่นหลังคาช่วยเหลือผู้ที่ขาดแคลนไปกว่า 60,000 แผ่น
แคมเปญรณรงค์สร้างการรับรู้เรื่อง FSC ตั้งแต่ปี 2559 เต็ดตรา แพ้ค ได้ทำกิจกรรมเพื่อประชาสัมพันธ์สื่อสารเรื่องของมาตรฐานการจัดการป่าไม้และฉลาก FSC ซึ่ง FSC เป็นหน่วยงานที่ก่อตั้งขึ้นโดยไม่หวังผลกำไร ที่มีการกำหนดนโยบายโดยสมาชิกจากภาคส่วนสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ เพื่อให้การจัดการป่าไม้ของโลกเป็นไปอย่างรับผิดชอบ ด้วยระบบการรับรองที่เข้มงวดและมีความโปร่งใส เต็ดตรา แพ้ค ประเทศไทย ได้ร่วมกับ FSC และ WWF ประเทศไทย ให้ความรู้แก่ผู้บริโภคในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ติดฉลากของ FSC รวมไปถึงการสนับสนุนกิจกรรมรณรงค์อื่นๆ อาทิ งาน FSC Friday และการจัดเยี่ยมชมป่าปลูกตามมาตรฐาน FSC อีกด้วย
อ่านรายงานความยั่งยืนระดับโลกฉบับสมบูรณ์ของ Tetra Pak คลิก
หรืออ่านสรุปจากรายงานและกิจกรรมที่ริเริ่มโดยเต็ดตรา แพ้ค ประเทศไทย ในเอกสารแนบของบทความนี้ หรือ รายงานคลิก / ไทยอินโฟกราฟิกคลิก
Tetra Pak Thailand Initiative 2019 (EN)
Recycling Ecosystem in Thailand 2019 (EN)